sdadad

I ♥ H O N G K O N G

ฮ่องกง เป็นหนึ่งในประเทศที่สาวๆ นักช๊อปไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมเยียนนะคะ เพราะเป็นประเทศที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเรา  ไม่ต้องทำวีซ่า เดินทางสะดวกสบาย สินค้าปลอดภาษี แถมยังมีอาหารอร่อยๆ ให้ทานกันทั้งวันทั้งคืน ร้านค้าและร้านอาหารส่วนมากก็จะเปิดตั้งแต่เช้าจนดึก  เดินเล่นกินเที่ยวกันได้ทั้งวันแบบเพลินๆ แต่ก็จะหมดตัวกันได้ง่ายๆ นะคะ เพื่อนๆ หลายคนอาจเคยไปกันมาหลายรอบจนชำนาญ สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยไป เรามาเริ่มวางแผนการเดินทางกันเลยมั้ยคะ… ㋡

ถ้าเพื่อนๆ เน้นดูสถานที่สำคัญๆ และไหว้พระ คูนแนะนำให้ไปกับทัวร์นะคะ เพราะจะคุ้มค่า ประหยัดและไม่เหนื่อยต้องเดินทางเองไกลๆ ค่ะ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 15,000-20,000 กว่าบาท ต่อ 2-3 คืน รวมค่าเครื่องบิน ที่พัก รถรับส่ง ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ และอาหารมื้อหลักค่ะ ครบวงจรไม่ต้องคิดมากเลยค่ะ
แต่สำหรับคูนแล้วชอบที่จะเดินทางเองแบบอิสระ เน้นกินเน้นช๊อปได้ตามสบายค่ะ อาจจองโรงแรมและที่พักผ่านทัวร์ เพราะบางครั้งจะถูกกว่าจองเองโดยตรงอีกค่ะ (แต่หากเพื่อนๆ สามารถหาตั๋วเครื่องบินเองได้ถูกกว่า 5000 บาท ควรจองเองเลยนะคะ) เริ่มจากหาวันว่างๆ สบายๆ ซัก 4 วัน 3 คืน กำลังดีเลยค่ะ ถ้าเวลาน้อย 3 วัน 2 คืนก็ยังคุ้มนะคะ เราควรเลือกเที่ยวบินเช้าสุด เพื่อที่จะไปถึงฮ่องกงประมาณเกือบบ่ายโมง และเชคอินที่โรงแรมได้ในเวลาบ่ายสองพอดีค่ะ (เวลาฮ่องกงบวก 1 ชั่วโมงจากบ้านเรานะคะ)
Day 1: มีเวลาอีกครึ่งวันสบายๆ ก็ควรหาอะไรอร่อยๆ ทาน และเดินเล่นกินบรรยากาศฮ่องกงกันนะคะ คูนเลือกไปเดินเล่นแถวๆ Tsim Sha Tsui ก่อนเลยค่ะ เป็นย่านดังของฝั่งเกาลูน เพราะที่นั้นมีร้านค้าริมทางเต็มไปหมดเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า รวมถึงร้านกระเป๋า brand name ที่ถูกกว่าบ้านเราแน่นอนค่ะ ย่านนี้เดินง่ายมากๆ มีห้างดังอย่าง Harbour City และร้านอาหารดังที่คนไทยไม่ไปไม่ได้อย่าง The Sweet Dynasty ตั้งอยู่ตรงข้ามกันเลยค่ะ อาหารมีหลากหลายมากๆ ค่ะ ทั้ง dim sum  บะหมี่ อาหารผัดทอดทั้งหลาย และเมนูของหวานมากมาย เช่น เต้าฮวยค่ะ ที่แน่ๆ ต้องมีคนไทยไม่น้อยกว่า 3 โต๊ะ กำลังอร่อยกันอยู่ ^^ อิ่มแล้วก็เดินช๊อปปิ้งกันต่อตามข้างทาง หรือจะเข้าห้างใหญ่ Harbour city เลยก็ได้ค่ะ คนไทยส่วนมากก็จะไม่พลาด Zara ซึ่งถูกกว่าบ้านเราประมาณ 20-30% ถ้าอยากซื้อของเล่นฝากเด็กๆ Toy R Us ที่นี้ก็ร้านค่อนข้างใหญ่ และถูกกว่าบ้านเราประมาณ 50% เลยนะคะ อยากหรูหน่อยที่นี้เค้ามีหมดค่ะทั้ง Hermes Chanel Bottega Balenciaga LV และอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนถูกกว่าบ้านเราทั้งนั้น  ツ
ดูเวลาเกือบสองทุ่ม เดินออกไปด้านหน้าจะเป็นอ่าวมองข้ามเห็นฝั่งฮ่องกง ควรรอดู The Symphony of Lights ซึ่งเป็นการโชว์ไฟแสงสีตามตึก จะมีทุกวันในเวลาสองทุ่มค่ะ ระยะเวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น ดูแล้วก็เพลินๆ ดีค่ะ  แถมได้ถ่ายรูปเล่นอีกหน่อย เสร็จแล้วจะเดินเล่นต่อในห้างก็ยังเปิดถึงประมาณสี่ทุ่มนะคะ แต่ถ้าหิวเร็วคูนแนะนำเพื่อนๆ ลองร้าน hot pot อย่าง Tao Heung ซึ่งอยู่สถานีเดียวกันแต่เป็น exit B2 ค่ะ ร้านจะตั้งอยู่ชั้น 3 Carnavon Plaza เปิดถึงตีหนึ่งเลยทีเดียว น้ำซุบเค้าเข้มข้นอร่อยมากค่ะ  v( ‘.’ )v
Day 2: วันที่สองมีเวลาทั้งวันควรออกนอกเมืองไป outlet ดังอย่าง Space Outlet และ Horizon Plaza กันดีกว่าค่ะ เป็นอีกที่โปรดของคูนเลย มีสินค้า brand name ลดราคาตั้งแต่ 10-90% อาจตกรุ่นไปบ้างแต่ก็ยังมีแต่ของถูกใจเต็มไปหมดเลยค่ะ ที่ Space Outlet จะมีเฉพาะ Prada และ Mui Mui นะคะ มีแค่ชั้นเดียว แต่ก็มีของให้เลือกมากมาย หัวจรดเท้า ทั้งชายหญิง ควรรีบไปตั้งแต่เวลาเปิดเลยจะดีค่ะ ช้านิดเดียวของที่เล็งไว้อาจตกไปเป็นของคนอื่นได้ทันที {{{(>_<)}}}

ส่วนที่ Horizon Plaza ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมาก จะต้องใช้เวลาเดินนานเลยค่ะ เพราะมีถึง 27 ชั้น ควรไปที่ประชาสัมพันธืเพื่อขอบรายละเอียดว่าชั้นไหนมีร้านอะไรบ้าง จากนั้นควรขึ้นลิฟไปชั้นสูงสุดก่อนแล้วไล่ลงมาเรื่อยๆ เพราะหากรอลิฟนานอาจต้องเดินลงบันไดก็เร็วทันใจดีค่ะ ที่ Horizon ก็จะมีร้านถูกใจเพื่อนๆ แน่นอนค่ะ ทั้ง Paul Smith, Diesel, Polo, Reply, Vivien Westwood, Jimmy Choo, Armani, Aldo และอีกมากมายบรรยายไม่หมด หรือร้านที่รวมหลายๆ brand อย่าง Joyce และ Lane Crawford ก็มีค่ะ ..

ส่วนเพื่อนๆ ที่มองหาของฝาก คูนอยากแนะนำร้าน GOD นะคะ เป็นแบรนด์ของฮ่องกง มีของเก๋ๆ เยอะเแยะเลยค่ะ ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า เครื่องครัว เครื่องเขียน เครื่องนอน ของแต่งบ้าน สารพัดเลยค่ะ ต้องมีของฝากที่ถูกใจกลับบ้านแน่นอนค่ะ ทั้งสองที่นี้เปิดวันอังคารถึงเสาร์ ตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงหกโมงเย็น วันอาทิตย์เปิดเที่ยงถึงหกโมงเย็น ส่วนวันจันทร์ปิดนะคะ อย่าเผลอไปเชียวเสียเที่ยวแน่นอน การเดินทางไป outlet นี้จะไปโดย taxi เลยก็ได้ แต่ถ้าอยากประหยัดและสนุก คูนแนะนำไปขึ้นรถเมล์ที่ Causeway Bay นะค่ะ ซึ่งเป็นอีกที่โปรดของคูนค่ะ อาจเปรียบได้กับแถวๆ สยามบ้านเรา มีร้านค้าร้านอาหารมากมายตลอดทาง รวมถึงห้างดังอย่าง Time Square, Sogo, Fashion Walk , World Trade Centre และ Island Beverly Centre ก็รวมอยู่ที่ Causeway Bay ค่ะ

ช่วงเช้าก่อนเดินทางไป outlet เราอาจไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกัน อย่าง dim sum ร้าน Jade Garden ที่ใครๆ อาจรู้จักดี เปิดตั้งแต่เเช้าเจ็ดโมงครึ่งถึงเที่ยงคืนเลยค่ะ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 3 Causeway Bay Plaza Phase2 หรือจะทานโจ๊กอร่อยๆ ก็มีให้เลือกหลายร้าน เช่น Chee Kee อิ่มแล้วก็ค่อยต่อรถเมล์ไปที่ Space Outlet และ Horizon Plaza  กัน ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ พอขากลับช่วงบ่ายๆ เราก็ค่อยกลับมาเดินช๊อปปิ้งต่อที่ย่านนี้ได้ค่ะ หากมีแรงต่อช่วงกลางคืน ก็มีตลาดนัดให้เพื่อนๆ เลือกเดินได้อย่าง Temple Street Night Market อยู่ที่สถานี Yau MaTei และ Ladies’ Market อยู่ที่สถานี Mongkok ทั้งสองที่นี้เปิดแต่เย็นจนถึงเที่ยงคืนค่ะคูนแอบชอบ Temple Street Night Market เป็นพิเศษตรงที่มีร้านอาหารทะเลสดๆ อร่อยๆ เยอะมาก แถมราคาถูกกว่าบ้านเราเยอะเลยค่ะ
Day 3: มาเกาะฮ่องกงทั้งทียังไม่เห็นทะเลเลย วันนี้คูนจะพาไปเดินเล่น นั่งดื่มชิวๆ ริมหาด ที่ Standley Market ค่ะ มาถึงริมหาดแต่เพื่อนๆ อาจแปลกใจที่ไม่เจอร้านอาหารทะเลเลย และที่นี่เพื่อนๆ อาจเจอชาวต่างชาติเยอะมากๆ จนลืมไปได้ว่าเราอยู่ฮ่องกงกัน Standley Market จะมีส่วนที่เป็นตลาดขายของ ซึ่งคล้ายๆ จตุจักรบ้านเรา แต่เล็กกว่า และมีส่วนที่เป็นร้านอาหารริมหาด ส่วนมากจะขายอาหารจานด่วน เช่น พวก burger และ fries รวมถึงมีของมึนเมาให้เรานั่งดื่มเพลินๆ ตลอดทั้งวัน พร้อมบรรยากาศเย็นๆ ริมหาด ค่ะ อีกโซนจะเป็นตึกที่มีร้านค้า ให้เราเดินเล่นหาของฝากอีกแล้ว รวมถึงร้าน GOD ก็มีที่นี่อีกนะคะ ยังมีร้านกาแฟให้เรานั่งเล่น Wifi ฟรีๆ ได้อีกด้วย Standley Market มาไม่ยากเลยค่ะ แค่ไปต่อรถเมล์ที่ย่าน Central เพียงต่อเดียว แต่อาจใช้เวลาเดินทางนานหน่อยประมาณ 45 นาที นั่งสุดสายมาลง Standley Market เลย หรือว่า จะแวะลงรถครึ่งทางที่ Repluse Bay เพื่อไหว้นมัสการเจ้าแม่กวนอิมก่อนก็ได้ค่ะ
 พอขากลับเราก็ควรนั่งรถเมล์ไปลงย่าน Central เหมือนเดิม เพื่อที่จะเดินเล่นย่านนี้ต่อได้ค่ะ Central จะเป็นย่านธุรกิจ แต่ก็มีร้านค้าดังและร้านอาหารอร่อยให้เราได้ลอง ที่พลาดไม่ได้คงจะเป็น H&M ร้านใหญ่ที่สุด มีถึง 4 ชั้น เพื่อนๆ เข้าไปก็จะเจอคนไทยมากมายแน่นอนเลยค่ะ ส่วนร้านอาหารดังอย่าง Yung Kee ก็อยู่ที่นี่ด้วยค่ะ เป็นร้านอาหารใหญ่มีหลายชั้น แต่ก็แน่นตลอด เพื่อนๆ อาจต้องรับบัตรคิวแล้วรอพักนึงนะคะ อาหารจานเด่นคงไม่พ้นห่านย่างเนื้อนุ่มหนังกรอบที่ทุกคนควรต้องลองค่ะ หมดไปอีกหนึ่งวัน ถ้ายังไม่เหนื่อยก็ไปต่อตลาดนัดกลางคืนได้เหมือนเดิมนะคะ

Day 4: วันสุดท้ายกันแล้ว เพื่อนๆ ที่กลับรอบเที่ยงคงต้องรีบออกไป check-in และ ช๊อปปิ้งต่อที่สนามบินนะคะ เพราะสนามบินเค้าก็ใหญ่และมีร้านน่าเดินเพื่อให้เพื่อนๆ เก็บตกมากมายค่ะ แต่หากกลับรอบดึกก็จะได้คุ้มต่ออีกครึ่งวันนะคะ อาจเดินเล่นแถวๆ โรงแรมที่เพื่อนๆ พัก หรือจะนั่งรถใต้ดินมาแถวๆ Tung Chung ซึ่งอยู่ใกล้สนามบินมากค่ะ และมี Outlet ดังอย่าง Citygate Outlet  ให้เพื่อนๆ เดินเล่นเพลินๆ อย่าลืมเผื่อที่ในกระเป๋าไว้เก็บของขึ้นเครื่องนะคะที่ citygate ก็จะมีร้าน brand name ที่น่าสนใจเยอะอีกแล้วค่ะ เช่น club 21, Bally, Armani Exchange, Calvin Klein, Burberry, Levi’s, Mango, Polo และอีกมากเลยค่ะ และอย่าลืมดูเวลานะคะ  เดี่ยวจะเพลินจนตกเครื่องได้

หวังว่าเพื่อนๆ คงเพลิดเพลินกับการช๊อปปิ้งที่ฮ่องกงกันทุกคนนะคะ หากอยากได้รายละเอียดการเดินทางหรือคำแนะนำเพิ่มเติมก็ถามหรือ comment มาที่ข้างล่างนี้ได้เลยนะคะ {{{(>_<)}}}
 คูนมี tips เพิ่มเติมมาฝากเพื่อนๆ ตามนี้ด้วยค่ะ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการเดินทางนะคะ

– ควรพักโรงแรมที่อยู่ใกล้ สถานีรถไฟใต้ดิน (MTR) เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
– แนะนำให้สวมใส่รองเท้าแตะที่นุ่มใส่สบายนะคะ เพราะหากต้องเดินทั้งวันรองเท้าผ้าใบก็เสียดสีทำให้เท้าเราบวมได้ แถมรองเท้าแตะยังง่ายต่อการถอดลองรองเท้าตามร้านต่างๆ ด้วยค่ะ
– อาจพกกระเป๋ารากไปด้วย จะได้ไม่ต้องหิ้วของหนักค่ะ
– ควรซื้อบัตรเติมเงิน octopus เพราะจะมีส่วนลดในการเดินทางและประหยัดกว่าซื้อทีละเที่ยว บัตรนี้ยังสามารถใช้ซื้อของในร้านค้าสะดวกซื้อได้ด้วยค่ะ แต่เราควรใช้เงินในบัตรให้หมด เพราะหาก ขอ refund จะมีการหักค่าใช้จ่ายค่ะ

Enjoy your trip .. bye bye ka ^^

KoOnY ♥

This entry was posted in LifeStyle. Bookmark the permalink.

Leave a Reply