sdadad

ทำดีกับผงพิเศษที่ลำปาง EP.3

มาลำปางคราวนี้ นอกจากมายได้ร่วมทำบุญศาลาและป้ายชื่อใหม่ของวัดสถานีรถไฟห้างฉัตร ได้เรียนรู้ความเป็นมาของชามตราไก่ที่พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี มายยังได้ไปเที่ยวที่ลำปางอีกหลายแห่งเลยล่ะค่ะ ไปไหนบ้าง เพื่อนๆ ตามไปเที่ยวกับมายเลยนะคะ

Visiting Lampang province this time, not only I have an opportunity to attend Let’s Do Good Activity with Pises Powder, I also go sightseeing in many tourists attraction places in Lampang province. Let ‘s go together, shall we? ღ

มาเที่ยวที่ลำปาง กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลย ก็คือนั่งรถม้าชมรอบรอบเมืองลำปางค่ะ รถม้าถือเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของจังหวัดนี้ ที่ผู้คนนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นเพียงจังหวัดเดียวในเมืองไทยที่ยังคงใช้รถม้าเป็นพาหนะในการเดินทางค่ะ

vlcsnap-2016-04-03-13h35m10s134ลักษณะของรถม้าลำปาง จะเป็นรถแบบเปิดประทุน ที่นั่งผู้โดยสารคล้ายคลึงกับที่นั่งของจักรยานสามล้อ แต่มีขนาดใหญ่กว่า อยู่ทางตอนหลังของที่นั่งคนบังคับ ซึ่งมีระดับสูงกว่าเล็กน้อย นั่งได้คันละไม่เกิน 4 คนค่ะ รถม้าคันแรกของจังหวัดลำปางเป็นของเจ้าบุญวาทย์ วงศ์มานิต เจ้าผู้ครองนครลำปาง หลังจากนั้นรถม้าจึงเริ่มมีแพร่หลายทั้งในลำปางและตามเมืองหลักต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเจริญของเทคโนโลยีการคมนาคมทำให้รถม้าค่อยๆเลือนหายไป เหลือแต่เพียงที่จังหวัดลำปางเท่านั้นที่ยังคงใช้รถม้าเป็นยานพาหนะอยู่ตราบจนปัจจุบันค่ะ นี่มายก็จะนั่งรถม้าไปบ้านเสานักนะคะ ㋡

2บ้านเสานัก บ้านไม่สักโบราณ ตัวบ้านมีลักษณะเป็นศิลปะแบบพม่าผสมล้านนา  อายุร้อยกว่าปี มีเสาถึง 116 ต้น ทำให้บ้านตั้งอยู่อย่างคงทนมาถึงปัจจุบันค่ะ ด้วยความที่ในอดีตลำปางเคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองทางด้านการค้าไม้โดยเฉพาะไม้สัก จึงทำให้ในลำปางเต็มไปด้วยบ้านโบราณที่สร้างด้วยไม้สักอย่างสวยงาม และยังคงไว้ให้เห็นถึงปัจจุบันค่ะ ตามประวัติบ้านเสานักหลังนี้ สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2438 โดย หม่องจันโอง ชาวพม่า ลักษณะการก่อสร้างเป็นแบบศิลปะพม่าผสมล้านนาค่ะ ปัจจุบันบ้านเสานักเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดลำปาง ไปชมภายในบ้านกันเลยนะคะ

4ซึ่งภายในบ้านจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้โบราณ เช่น แหย่งช้างของเจ้าหลวงลำปาง หีบโบราณ เครื่องอัดกลีบผ้าม่วง กำปั่นเหล็ก เครื่องเขิน เครื่องเงิน ที่ผนังติดภาพเจ้าดารารัศมี และภาพของเจ้าของบ้านรุ่นแรก และภายนอกบริเวณใกล้เคียงกับตัวบ้านยังมีถุข้าว     (ยุ้งข้าว)เสาหลาย ที่มีเสาถึง 24 ต้น และต้นสารภีที่มีอายุกว่า 130 ปี หากว่าใครได้มาแอ่วเมืองลำปาง หาโอกาสแวะมาชมความงามของบ้านเรือนไม้สักโบราณหลังนี้กันดูค่ะ ㋡

vlcsnap-2016-04-03-13h37m38s75แวะทานกาแฟซักหน่อย ต้องที่ร้านนี้เลยค่ะ โก๋กาแฟ  อยู่ริมถนนฉัตรไชย บรรยากาศสบายๆ ร่มรื่นมากๆ ร้านนี้ใช้เมล็ดกาแฟคุณภาพที่คั่วเเองจากโรงคั่วกาแฟปรีดา

vlcsnap-2016-04-03-13h39m41s24ที่ร้านมีหลายมุมแล้วแต่ชอบ มีขนมเค้กในตู้หลายเมนู มีไอติมทอด รวมถึงฮันนี่โทส กาแฟอร่อย หอม ราคาไม่แพงค่ะ ٩(͡๏̯͡๏)۶

vlcsnap-2016-04-03-13h40m52s222วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม มีอายุนับพันปี เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต เป็นเวลานานถึง 575 ปี ปูชนียสถานที่สำคัญในวัดพระแก้วดอนเต้า ได้แก่ องค์พระบรมธาตุดอนเต้า พระเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า วิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ที่มีอายุเก่าแก่พอ ๆ กับวัดนี้ นอกจากนี้ยังมี วิหารหลวง ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย วิหารพระเจ้าทองทิพย์ สร้างโดยพระนางจามเทวี อายุกว่า 1,000 ปี เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทองทิพย์ ศิลปะสมัยเชียงแสน มณฑปหรือพญาธาตุ ศิลปะแบบพม่า วิหารลายคำสุชาดาราม ฝีมือช่างเชียงแสน ภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง โดยมีลวดลายทองประดับตามส่วนต่าง ๆ งดงาม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเชียงแสน และยังมี พิพิธภัณฑสถานแห่งล้านนา อันเป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรมแบบล้านนาด้วยค่ะ

vlcsnap-2016-04-03-13h41m20s250

เที่ยงล่ะ หาทานข้าวซักหน่อย อาหารเหนือต้องร้านนี่เลยค่ะ ครัวมุกดา อยู่ที่ท่าคราวน้อย ใกล้สนามบิน

vlcsnap-2016-04-03-13h42m01s145

ร้านนี้ สะอาด รวดเร็ว บริการดี อาหารรสเลิศคือบุฟเฟต์ขนมจีน ประกอบด้วยน้ำต่างๆ เช่น น้ำเงี้ยว น้ำยา น้ำยาป่า ทานกับไข่ต้มอร่อยมากๆ นอกจากนี้ อย่าได้พลาดหมูสะเต๊ะ และไก่ย่างรสเลิศเลยนะคะ

vlcsnap-2016-04-03-13h42m54s166วัดปงสนุก วัดเก่าแก่ที่สำคัญของลำปางอีกวัดหนึ่งนะคะ ตัววัดเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทย จีน พม่า วัดนี้มีวิหารพระเจ้าพันองค์ ซึ่งได้รับรางวัลการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่นจากยูเนสโก้ด้วยค่ะ ㋡

vlcsnap-2016-04-03-13h43m19s160โดยวิหารพระเจ้าพันองค์ที่ได้รับรางวัลหลังนี้สร้างด้วยไม้ เป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวของประเทศ ตัวอาคารแสดงถึงการรวบรวมทั้งงานด้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทย จีน พม่า ผสมผสานเข้าไว้ด้วยกันอย่างสวยงาม

vlcsnap-2016-04-03-13h43m46s173โครงสร้างของวิหารมีลักษณะเป็นมณฑปเปิดโล่งตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูปสี่องค์ พระพักตร์แต่ละองค์ก็หันออกไปยังทิศทั้งสี่ ในส่วนของหลังคามีลักษณะซ้อนกันสามชั้นซึ่งตกแต่งไว้อย่างสวยงาม รวมไปถึงเสาสี่เหลี่ยมที่ค้ำตัววิหารก็มีลวดลายอันน่าวิจิตรปรากฏให้เห็นอยู่แทบทุกต้น และบริเวณด้านบนรอบในของตัววิหารนั้นได้รับการประดับด้วยพระพิมพ์องค์เล็กจำนวนมากถึง 1,080 องค์ นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ วิหารพันองค์ ที่ใช้เรียกกันอย่างติดปากค่ะ

vlcsnap-2016-04-03-13h44m31s113สะพานรัษฎาภิเศก หรืออีกชื่อหนึ่งว่า สะพานขาว เดิมเป็นสะพานโครงสร้างไม้ สร้างขึ้นเมื่อปี 2437 ต่อมาได้ก่อสร้างใหม่เมื่อปี  2460 เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กค่ะ สะพานรัษฎาภิเษก หรือ สะพานขาว ตั้งอยู่ที่ถนนรัษฎา เป็นสะพานข้ามแม่น้ำวัง เดิมเป็นสะพานโครงสร้างไม้ ที่ทางเจ้าผู้ครองนครลำปาง และชาวจังหวัดลำปางได้จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในวาระที่พระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 ในโอกาสที่พระองค์ครองราชย์ครบ 25 ปี ในปี พ.ศ. 2437

vlcsnap-2016-04-03-13h45m13s17ในสมัย สงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ได้ทาสีพรางตาและด้วยการอ้างว่าสะพานแห่งนี้ไม่มีประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ จึงรอดจากโจมตีทิ้งระเบิดมาได้ หลังจากนั้นได้มีการก่อสร้างใหม่ เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก บริเวณสะพานมีเครื่องหมายไก่ขาว และครุฑหลวงประดับไว้ตรงหัวสะพานค่ะ

DSC02519เที่ยวมาทั้งวันล่ะ หน้ามัน สิวขึ้นเลย เดี๋ยวมายด์ ขอแวะไปซื้อผงพิเศษก่อนนะคะ ღ

vlcsnap-2016-04-03-13h47m45s253ผงพิเศษหาซื้อง่ายค่ะ  มีขายตามร้านขายยาทั่วไป ตอนนี้มายด์อยู่ที่ร้านขายยาเบสท์ ถนนอัศวินค่ะ พี่ค่ะ ขอซื้อผงพิเศษ 2 ซอง จะไปแต้มสิวค่ะ ღ

vlcsnap-2016-04-03-13h49m02s1เฮ้…ได้ผงพิเศษมาแล้ว  เห็นไม๊ล่ะค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็หน้าใส ไร้สิวอย่างง่ายๆค่ะ ซองละ 10 บาทเอง ไม่แพงด้วย แค่ 10 บาท หน้าก็ใสแล้ว ♥

6หอนาฬิกาลำปาง แลนด์มารค์ที่สำคัญอีกอันของลำปางนะคะ สร้างมาตั้งแต่ปี 2497 ค่ะ

vlcsnap-2016-04-03-13h51m09s253สถานีรถไฟลำปาง เปิดใช้เมื่อสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งในตอนนั้นสถานีรถไฟนครลำปางถือเป็นจุดสิ้นสุดของรถไฟสายเหนือ ตัวอาคารมี 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ ฉลุลายสวยงาม ได้รับเลือกเป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยาม เมื่อปี 2526 ค่ะ

vlcsnap-2016-04-03-13h52m49s220อาคารสถานีรถไฟลำปางมีรูปทรงที่แปลกกว่าที่อื่นค่ะ คือเป็นทรงยุโรป มีเสารูปโค้ง มีลายไม้ฉลุตามระเบียงและเหนือวงกบประตูหน้าต่าง ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานของภาคเหนือและยุโรป อาคารเป็นลักษณะครึ่งตึกครึ่งไม้ ชั้นล่างเป็นตึกที่ดูแข็งแรงมั่นคงส่วนชั้นบนเป็นไม้ สถานีรถไฟนครลำปางสร้างเมื่อปี 2458 ในรัชกาลที่ 6) และในปี 2459 ก็เปิดใช้งานค่ะ ในปี 2536 อาคารเก่าแก่หลังนี้ ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมแห่งสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ให้เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่น ประเภทอาคารสถาบันและสาธารณะ ประจำปี 2536 ด้วยค่ะ

vlcsnap-2016-04-03-13h53m14s220สำหรับลำปางนะคะ ก็มีที่เที่ยวที่น่าสนใจเยอะมากมาย คราวหน้าถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวอีกครั้ง มายต้องไม่พลาดที่กาดกองต้า ตลาดโบราณอายุร้อยกว่าปี ซึ่งตัวตลาดเป็นอาคารเก่าแก่ผสมผสานระหว่างยุโรป จีน พม่าล้านนา และไทยภาคกลางค่ะ อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมสินค้า อาหาร และของที่ระลึกน่าช้อปหลากหลายชนิดด้วยค่ะ เอาล่ะค่ะ มาลำปางคราวนี้มายได้ทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกับผงพิเศษตราร่มชูชีพมากมายเลยล่ะค่ะ อิ่มอกอิ่มใจ ได้ทำบุญ และได้เที่ยวด้วย สนุกมากๆ เลยล่ะค่ะ แล้วครั้งหน้าจะมีกิจกรรมอะไรดีๆ จากผงพิเศษตราร่มชูชีพอีก ต้องคอยติดตามกันนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดี ค่ะ บ๊ายบายค่ะ ♥

vlcsnap-2016-04-03-13h54m01s173Visiting Lampang province this time, not only I have an opportunity to attend Let’s Do Good Activity with Pises Powder, visit Dhanabadee Ceramic Museum , learn about the history of chicken bowl  and buy beautiful chicken bowls as a souvenir back home, I also go sightseeing in many tourists attraction places in Lampang province. Let ‘s go together, shall we? ღ

Lampang Horse Carriage, the single horse carriage was the only real means of transportation in Lampang province during the reign of King Rama the Fifth. The first horse carriages were originally bought up from Bangkok. The use horse carriages became in wide-spread from Lampang to Ratchasima in the Northeast and from Si Thammarat in the South to Chiang Rai in the North. Lampang remains the only real area, the horse carriages are still used as a daily transportation for the locals. The Lampang small version was developed by Khun Uthankhadee in 1949 A.D. In 1952 A.D., Chow Boonsong Na Lampang officially changed the name of the Rot ma taxi to “horse carriage” to add a trendy and fashionable image to their use. Today there are still 70 horse carriages in daily use in Lampang and only two thirds of the carriages are even ridden by the tourists around the city area.

Baan Sao Nak is situated on Rat Wattana Road in Wiang Nuea Sub-district, Mueang District, Lampang Province. It is an ancient wooden house. Since there are up to 116 planks of teakwood posts, this house is named “Baan Sao Nak.” The word “Nak,” in the local language, means “many.” This house was built in 1895 by Mong Chan Ong, the origin of the Chandraviroj family. The house was named by MR. Thanadsri  Svasti, owing to the amount of the posts. The area of the house is around 3 Rai, consisting of large houses in group, garage, and granary. The special thing of this house is that it is the architecture with the combination of Myanmar and Lanna Style. The inside of Baan Sao Nak displays ancient appliances which were used in northern people’s lifestyle in the past; for example, the support on an elephant or Chao Luang Lampang’s seat on the elephant’s neck, ancient casket, machine for creasing cloth, iron coffer, lacquer ware, silverware.

Wat Phra Kaeo Don Tao or Wat Phra Kaeo Don Tao Suchadaram is located in WiangNuea sub-district, Mueang district, Lampang province. The temple was built between 1782 and 1809, during which the Chiang Saen people had been captured and herded to locate in Khelang town to recall goodness of MrsSuchada after being sentenced to death because of misunderstanding. However, the truth was revealed later. It was believed that the temple was a home and a watermelon farm of Goddess Suchada in the past. Later on 6 August 1984, the Ministry of Education combined WatSuchadaram with WatPhraKaeo Don Tai and called it WatPhraKaeo Don Tao Suchadaram. Its ordination hall is Chiang Saen style of architecture. It is a stucco-over-brick building decorated with mural paintings covered withlacquer and gold leaves. Inside the hall,a Buddha image in the attitude of subduing Mara is enshrined on a plaster base. The ordination hall was renovated in 1922, 1960 and 2007on the occasion of The Sixtieth Anniversary Celebrations of His Majesty’s Accession to the Throne. ٩(●̮̮̃•̃)۶

On the banks of the Wang river in the town of Lampang is the Wat Pongsanuk, a beautiful temple built in a mix of Lanna and Burmese Shan styles. The temple that is also called Wat Pongsanuk Tai was built in 1886 by wealthy Burmese immigrants employed in the teak logging industry. Between the end of the 19th century and the early 20th century Lampang was a center of teak logging in North Thailand. During those years many Burmese came to the Lampang area, who built a number of Burmese style monasteries as an act of gaining merit. The Southern part of the temple complex is built on top a small mound. A Naga staircase leads up to the large stuccoed arched entrance gate. Inside the walled area are a chedi and two viharns. The Wat Pongsanuk’s most interesting building is an open, teak wood Burmese style viharn. The unique building named Viharn Phra Chao Phan Ong was carefully restored during a 4 year restoration project.

Ratchadapisek Bridge (or the white bridge) is located on Ratchada Road, Amphoe Muang. Originally, it was a wooden bridge that the ruler of Lampang old city “Chao Noranan Chaichaowalit” together with his citizens had built to commemorate Phrabat Somdet Phra Chula Chomklao Chaoyuhua (King Rama V) ’s Anniversary of his 25th year Accession to the Throne in 1894. The bridge was considered the biggest bridge in Thailand, since it was 120 meters long. Assuming that the name“Ratchadapisek” has come from the purpose of its construction to offer the bridge as a memorial for King Rama V’s Accession to the Throne Ceremony. The king himself had bestowed the name “Ratchadapisek” to this bridge as well. Ratchadapisek is an iron-concrete bridge painted white, looking outstandingly attractive with 4 bow-shaped curves. It stands tall on Mae Wang river as a landmark of Lampang until nowadays. ღ

Nakhon Lampang Railway Station is located in Amphoe Muang, Lampang, 642.29 kilometers away from Bangkok Railway Station. Built in 1915 during the reign of King Rama VI, the first train arrived on 1st April 1916, which was exactly Thai New Year during that time.

Having endured through 98 years of long history, Nakhon Lampang Railway Station has still preserved its beautiful architectural heritage until nowadays. It building is extraordinary, unlike other stations. To illustrate, it is a European-style building with curve posts, and fretwork around door panels and door-window frames, which blends the Northern Thailand style and European style together. The station is a splendidly rare-to-find Lanna-Colonial building. It was half wood-half concrete. The ground floor is a solid concrete, whereas; the upper floor was made of wood. Many Chinese-style houses lined up in front of the station still bare its antique charm to the passerby. As a beautiful European architecture,  Nakhon Lampang Railway Station is the only railway station in Thailand that has stood tall for almost a century. Therefore, it becomes a historical heritage that has persisted with Lampang province for a long period of time. {{{(>_<)}}}

Kat Kong Ta Walking Street is a night market at by Wang River Pier. The market was flourishing during the reign of King Rama V and there were communities of British, Burmese, and Chinese people who came to do business. The Chinese dominated the trade and became the largest community here. The district was therefore named ‘Thanon Talat Chin,’ literally meaning the street of the Chinese market. Shops along the river banks are in the mixed architectural styles of Europe and China, including whole wooden buildings that are still in good condition.

Oh….lots of activities for visiting Lampang province this time today. Lots of fun. So please wait and see for the next activities from Pises Powder Parachute Brand. Hope you enjoy this trip as I do!!! Bye!!!

vlcsnap-2016-04-03-13h51m55s200

YouTube Preview Image

With ⓁⓄⓋⒺ

:¨·.·¨:

`·.. Mine Thanaporn Rattanasasiwimon ♥

This entry was posted in What We Love. Bookmark the permalink.

Leave a Reply