ทราบหรือไม่ว่า “ผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ” ตำนานยารักษาสิวของเมืองไทย มีอายุถึง 68 ปีแล้ว แต่ผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ ก็ยังอยู่ยงคงกระพัน เคียงคู่วิถีชีวิตคนไทยมาได้จนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าใครก็ตาม ที่เคยผ่านวัยสิวมาแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่รู้จักหรือไม่เคยใช้สินค้ายี่ห้อนี้ หรือบางทีอาจจะเคยบอกใครหลายคนมาแล้วว่า สิวหายเพราะ “ผงพิเศษ ตราร่วมชูชีพ” เพราะแม้แต่ดารา นางงาม หรือกระทั่งวัยรุ่น หนุ่มสาวยุคใหม่ หลายคนก็ยังคงใช้สินค้ายี่ห้อนี้อยู่ แล้วอย่างนี้จะปฏิเสธได้หรือว่า “ผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ” คือหนึ่งในสุดยอดแบรนด์ไทย ที่คนไทยไม่ควรลืม ٩(˘◡˘)۶
“ผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง และรับใช้คนไทยมานานถึง 68 ปี ด้วยสรรพคุณที่ไม่เกินเลย เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “พิเศษ” ดังโฆษณาแผ่นพับผงพิเศษ ที่อ่านแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ ซึ่งมีใจความว่า ”
“ใครๆ ก็ดีใจ ผงพิเศษตราร่มชูชีพ ไม่ใช่ยาอันตราย
รักษาสิวบนใบหน้าได้ ใช้ง่าย ราคาถูก ซองละ 5บาทเท่านั้น
สิวสุกสะกิดหัวสิวออก ใช้ผงพิเศษ แต้มที่แผลของสิวทุกครั้ง
ก่อนนอนล้างหน้าให้สะอาด ละลายผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ ทาบางๆ
เพื่อสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย ที่อุดรุขุมขนบนใบหน้าให้หมดไป
จะบรรเทาอาการเป็นสิว ผงพิเศษตราร่มชูชีพ”
ผู้ที่สร้างตำนานแบรนด์เนมชื่อดังนี้คือ ดร.สมเกียรติ และคุณสมจิตต์ ศุภโกวิท ซึ่งเป็นคุณตาและคุณยายของผู้เขียน (ɔ◔‿◔)ɔ ♥
คุณตาเป็นชาวจังหวัดลำปาง จบปริญญาตรีจากโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยแม่โจ้) และเข้ารับราชการที่กรมป่าไม้ ต่อมาได้ลาออกมาประกอบอาชีพค้าขายและรับเหมาก่อสร้าง คุณตาได้แต่งงานกับคุณยายเมื่อปี พ.ศ. 2488 หลังจากนั้นทั้งคู่ได้สะสมเงินทุนได้ก้อนหนึ่งและได้ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพ คุณตาได้เช่าตึกแถวที่ถนนจักรพรรดิพงษ์เพื่อที่จะลงทุนทำธุรกิจเป็นหลักแหล่ง โดยอาศัยความรู้ที่ร่ำเรียนมาจากแม่โจ้ ทำให้พอมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องสมุนไพรอยู่บ้าง จึงคิดริเริ่มที่จะทำยาขาย
ในปี พ.ศ. 2490 ยารักษาสิว และโรยแผล ก็ได้ออกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก โดยคุณตาเป็นคนปรุงผสมตัวยา ในขณะที่คุณยายเป็นคนตักยาใส่ซองและบรรจุกล่อง หลังจากคิดค้นส่วนผสมของตัวยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อมาคือการตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทำให้คุณตาต้องคิดหนักเอาการ จนวันหนึ่งคุณตาไปนอนพัก อยู่ใต้ต้นประดู่ หลังวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร ช่วงนั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณตาก็ เห็นเครื่องบินๆ ผ่านมามีทหารโดดร่มชูชีพลงมา จึงเกิดความคิดและตัดสินใจใช้ “ร่มชูชีพ” เป็นเครื่องหมายการค้า และตั้งชื่อตำรับยาผงโรยแผล รักษาสิวนี้ว่า “ผงวิเศษ” และคุณตายังนำเอารูปของตนเองมาไว้บนซองยาอีกด้วย ส่วนชื่อบริษัทนั้นได้นำชื่อของคุณยาย “สมจิตต์” มาตั้งชื่อบริษัท เป็นบริษัท สมจิตต์โอสถ จำกัด โดยในช่วงแรกบริษัทฯ ตั้งอยู่ ณ บ้านเลขที่ 96 ถนนจักรพรรดิพงษ์แขวงนางเลิ้ง เขตพระนคร กรุงเทพฯ และผงวิเศษตราร่มชูชีพได้ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2493 \ (•◡•) /
เมื่อผงวิเศษ ตราร่มชูชีพ เริ่มขายดี คุณตาก็เริ่มที่จะผลิตยาตัวใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา คุณตาได้พยายามพัฒนาสูตรตำรับยาแก้ปวดพัน และยาธาตุน้ำแดงขึ้น เมื่อพัฒนาสูตรตำรับยาสำเร็จในปลายปี 2500 จึงได้นำยาแก้ปวดฟันตราร่มชูชีพ และยาธาตุวิเศษตราร่มชูชีพ ออกจำหน่ายในท้องตลาด แต่เมื่อขายได้ไม่นาน ก็จำต้องเลิกผลิต เนื่องจากวัตถุดิบในการผลิตบางตัวหายาก และเกิดความไม่สะดวกในการขนส่งยาสำเร็จรูป
ในปี 2510 กระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎหมาย การตั้งชื่อสินค้าจะต้องไม่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง “ผงวิเศษ ตราร่มชูชีพ” จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “ผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ” เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกหลายยี่ห้อ ที่ต้องถูกเปลี่ยนชื่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยก็คือ คุณภาพ แพ็คเกจจิ้งและดีไซน์ที่ยังคงเอกลักษณ์มาตลอด (>‿◠)✌
ในปี 2506 คุณตาได้ย้ายบริษัทฯ มาตั้งที่ เลขที่ 9/19 ซอยลาดพร้าว 23 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ และได้สร้างโรงงานขึ้นมาใหม่ เป็นโรงงานชั้นเดียวพร้อมโรงพิมพ์ และในปี 2524 คุณตาได้สร้างโรงงานขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เป็นอาคารสูงเจ็ดชั้น พร้อมโรงพิมพ์สองชั้น โดยใช้เครื่องจักรในการผลิต และบรรจุที่ทันสมัยจากประเทศเยอรมันตามมาตรฐานสากล ᕙ(`▿´)ᕗ
เมื่อคุณตามีอายุมากขึ้น คุณแม่ บุตรสาวเพียงคนเดียว และคุณพ่อได้เข้ามารับช่วงต่อ คุณแม่เล่าย้อนกลับไปให้ฟังว่า ในสมัยที่คุณตาและคุณยาย เริ่มผลิตยาออกวางจำหน่ายครั้งแรกนั้น ต้องต่อสู้โดยลำพังมาตลอด โดยคุณตาเป็นทั้งผู้คิดค้น ผู้ผลิต และคุณยายเป็นคนตักยาใส่ซอง และบรรจุกล่อง มีลูกน้องถีบสามล้อให้คุณตานั่งไปขายยาตามตลาด ร้านขายยา บางทีคุณตาและคุณยายก็ต้องเดินเร่ขาย แจกใบปลิวโฆษณาด้วยตนเอง จนรองเท้าสึกไปหลายคู่ ต่อมาจึงพัฒนามาใช้รถฉายหนังกลางแปลง หรือที่ชาวบ้านคุ้นเคยและเรียกว่า “หนังขายยา” โดยออกตระเวนฉายหนังไปตามหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ หลังจากเร่ฉายหนังขายยาอยู่พักใหญ่ และมีเพลงผงวิเศษ ตราร่มชูชีพ เปิดตามวิทยุ ต่อมาคุณตาจึงมองการณ์ไกลไปอีกขั้นหนึ่งว่า จากนี้ไปจะต้องลงทุนครั้งใหญ่ในการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อจะก้าวไปสู่ระบบอุตสาหกรรมอย่างเต็มตัว
ในเรื่องการใช้สื่อโฆษณานั้น เรียกได้ว่าคุณตา มีความคิดนี้เป็นคนแรกๆ ในยุคนั้นก็ว่าได้ โดยให้ชูศรี และล้อต๊อก ดาวตลกชื่อดังในสมัยนั้น มาเป็นพรีเซนเตอร์ถ่ายโฆษณา ในปี 2510 ซึ่งหนังโฆษณาชุดนั้นคนรุ่นเก่าๆ น่าจะจดจำกันได้
ต่อมาในปี 2524 ได้ให้ดวงตา ตุงคะมณี เป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งมีผลตอบรับดีมาก คุณตาเลยให้ดวงตา ตุงคะมณี มาถ่ายทำโฆษณาอีกหลายครั้ง ตอนนั้นใครเห็นดวงตา ตุงคะมณี ก็ต้องนึกถึง “ผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ” ทุกครั้งไป
“ผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ” หนึ่งในสุดยอดแบรนด์ยารักษาสิวของไทย ที่ยืนยงอยู่ได้เกือบเจ็บสิบปี นับว่าเป็นตำนานที่ไม่มีทางปิดฉากลงง่ายๆ และในปี พ.ศ. 2547 ผลิตภัณฑ์น้องใหม่ ภายใต้สัญลักษณ์ร่มชูชีพอีกตัวหนึ่ง ก็ได้ออกสู่ตลาด ซึ่งก็คือ “ยาหม่องตราร่มชูชีพ” และ ปัจจุบัน พ.ศ.2561 บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ภายใต้สัญลักษณ์ร่มชูชีพ อีกทั้งโรงงานใหม่สุดไฮเทค ที่มีมาตรฐานตาม GMP PICS กำลังจะเปิดในเร็วๆ นี้ (>‿◠)✌
เล่าประวัติมายาวมาก ยังไงก็ลองฟังเพลงโฆษณาผงวิเศษ ตราร่มชูชีพ ปี พ.ศ. 2510 กัน ♫♪
เพลง ผงวิเศษตราร่มชูชีพ (พ.ศ. 2505)
ประเสริฐ สีแสด – อุไรวรรณ คล้ายบรรเลง ขับร้อง
วงดนตรี ประเสริฐ ศิริพร
(ญ) กลุ้มใจเหลือที.. โอ้คุณพี่.. จงช่วยสักหน่อย..
เพราะว่าลูกน้อย.. ร้องกวนละห้อย.. จะทำอย่างไร
(ช) โอ้ลูกของเรา.. ป่วยใดเล่า.. จงกล่าวคำไข..
แม้ทราบแน่ใจ.. แล้วจะไป.. หาซื้อเลือกยา..
(ญ) ลูกเรา.. เป็นแผลพุพอง..
(ช) ต้องใช้ผงวิเศษ.. ตราร่มชูชีพทา.. ผงวิเศษตราร่มชูชีพหนา..
ใช้โรยทาแผลทุกอย่างมากมี..
อีกทีเหลือยา.. ใส่รักษาน้ำหนวกได้ดี..
สะดือเด็กอ่อนนี้.. ใช้โรยได้ดี.. เป็นที่แน่นอน..
(ญ) ขอบใจแล้วเอย.. ที่เฉลย.. คำกล่าวเล่าวอน..
ล้วนดีแน่นอน… ผงวิเศษ.. ตราร่มชูชีพเอย..
***คัดลอกจากบทความ “จากใจ” ตอนที่ 1 หน้า 80-83 เรื่อง “หนึ่งในสุดยอดแบรนด์ไทย ผงพิเศษ ตราร่มชูชีพ” จากหนังสืออนุสรณ์แห่งความรัก และความผูกพัน งานพระราชทานเพลิงศพ นางสมจิตต์ ศุภโกวิท, 23 กรกฏาคม 2554
❤❤***24๋JUNE18 HBD GMUM LUV U SO MUCH*** ❤❤
**********************************************************************************************************************
One of the best acne killer medicine in Thailand : Pises Powder Parachute Brand
Mr. Somkiat was born in Lampang province, Thailand and graduated from Mae Joh Institute of Agricultural Technology in Chiang Mai province, Thailand (currently known as Mae Joh University). He began his career in Royal Forest Department of Thailand but resigned his position for his love of sales and marketing. Mr. Somkiat was determined to specialize in medicine profession. The medicine he produced must be of high quality but inexpensive at the same time in order to be suitable for people with low income. He used his knowledge to devise and develop medicinal formulas from local and international pharmacopoeias. His process involved purchasing raw materials from abroad mixed with other local ingredients in lengthy testing periods. Finally, he was able to develop an anti-bacterial formula for acne and flesh wounds. This formula was later packaged for sale.
As sales increased, Mr. Somkiat wanted his formula that he created, to be labeled with a name. One day during the Second World War, whilst he was resting under a tree behind Thepsirin Temple in Bangkok, Thailand, he saw a plane fly overhead with paratroopers jumping from the plane. When he saw the sky filled with opened parachutes, he decided to use “parachute” as his brand name and called his anti-bacterial formula, “Vises Powder” (Vises means magical in Thai language). With his image incorporated into the packaging, his wife’s name, Somchitt, was used to form the company named, Somchitt Dispensary Company Limited. The company was initially situated at no. 96 Chakrapaddipong Road, Nang Lueng Sub-District, Pranakorn District, Bangkok, Thailand. Vises Powder Parachute Brand was officially launched in Thai market on 19th August 1950.
In 1957 Mr. Somkiat completed his development of remedies for toothache (Anti-toothache Parachute Brand) and stomachic formula (Parachute M. Stom.), which were officially launched in Thai market by the end of 1957.
In 1962 The Ministry of Health issued a new regulation to change all medicinal product names that were misleading significances to their healing abilities. Therefore, Mr. Somkiat changed his product name from Vises Powder Parachute Brand to Pises Powder Parachute Brand, “Pises” simply means different from others.
In 1963 Mr. Somkiat moved his company location to no. 9/19 Soi Lardprao 23, Chankasem Sub-District, Chatuchak District, Bangkok, Thailand. A new single storey factory including printing house was built at this location.
In 1975 Mr. Somkiat decided to cease the production and distribution of Anti-toothache Parachute Brand and Parachute M. Stom. as some raw materials were very hard to find.
In 1984 Mr. Somkiat rebuilt his factory into a seven-storey building and two-storey printing house. The factory was fully equipped with modern productions and packaging equipments from Germany.
In 1988 Mr. Somkiat was royally bestowed with an honorary degree from Mae Joh University, Chiang Mai, Thailand.
In 1989 Somchitt Dispensary Company Limited received the Certificate of Good Manufacturing Practice (GMP) that was approved by Thai Food and Drug Administration, Ministry of Public Health, Thailand in the categories of powder drug, which was amongst the first group of pharmaceutical factories that received GMP Certificate.
In 1990 Dr. Somkiat arranged a 40th year anniversary of Pises Powder Parachute Brand to show appreciation for all the support and dedication of various suppliers and drug stores.
In 1999 The Company was restructured with more modern production equipments to maintain its high standard of productions.
In 2004 The Company introduced a new product under the Parachute brand name, the “Parachute Balm”.
To be continue..✌✌✌